“ศิลปะสมัยใหม่ได้มีการวิวัฒน์ที่ไปไกลมากแล้ว ศิลปะยุคนี้ไม่ได้พูดถึงแต่ความงดงามเพียงอย่างเดียว หากแต่มีการแฝงคำนึงถึงแนวคิดปะปนรวมอยู่ด้วย สำหรับตัวผมเอง ซึ่งอยู่ในช่วงยุคของการคาบเกี่ยว ผมจึงมีมุมมองว่าทั้ง 2 สิ่ง ควรจะต้องไปอย่างควบคู่กันทั้งทางด้านภาพลักษณ์และแนวคิดการใช้งานอันเป็นประโยชน์”
คุณอภิวัฒน์ ชิตะปัญญา (นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ Masaya) ร่วมบอกเล่าถึงมุมมองที่มีต่องานศิลปะ ตามทัศนะคติในการทำงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งมาอย่างยาวนานหลาย 10 ปี ดังนี้…
ก้าวแรกเริ่ม…
ก่อนก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ต้องขอย้อนความหลังไปในสมัยที่ผมกำลังศึกษาอยู่ เดิมทีผมไม่ได้เรียนและจบมาทางสาย Product Design โดยตรง ผมเรียนและศึกษามาทางสาขา Fine Art ตั้งแต่สมัย ปวช. ทำเกี่ยวกับพวกช่างศิลป์และงานศิลปะ พอถึงช่วงปริญญาตรี ก็ศึกษาต่อในสาขาวิจิตรศิลป์ คณะสถาปัตย์ ลาดกระบัง และปริญญาโทที่ศิลปากร ผมก็จบจากสาขามัณฑนศิลป์ (ออกแบบประยุกต์ศิลป์) การเรียนสาขาประยุกต์ศิลป์ ทำให้ผมได้แนวคิดจากการอออกแบบเพื่อรับใช้ผู้คนมากกว่าการสื่อสารตัวตนออกมาแบบส่วนตัว เรียกได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับศิลปะหลากหลายแขนงสาขามาโดยตลอด
ตัวตนอันเที่ยงแท้…
ผมเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานจากงานศิลปะแท้ๆ เพียงอย่างเดียว ให้กลายเป็นงานศิลปะสำหรับการตกแต่งประยุกต์สมัยใหม่ บนพื้นฐานของจุดยืนที่ว่าต้องมีคาแรกเตอร์เฉพาะทาง แตกต่าง และต้องสามารถดึงดูดทางด้านภาพลักษณ์ตั้งแต่แรกพบ ซึ่งสำหรับผมแล้วเอกลักษณ์ของผลงานที่ดีจะต้องมีความดึงดูดทั้งทางภาพลักษณ์และแนวคิดอย่างขาดสิ่งไหนสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เป็นอันขาด นอกจากลักษณะการออกแบบที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนอันเด่นชัดแล้ว ผมยังให้ความสำคัญกับการออกแบบโดยเลียนแบบรูปทรงจากธรรมชาติ ตัดทอนเหลี่ยมมุม สร้างความรู้สึกลื่นไหลและเคลื่อนไหว เพื่อความรู้สึกที่มีชีวิตชีวา โดยวิธีการสื่อสารของผมนั้น จะไม่สื่อสารออกไปตรงๆ สักทีเดียว แต่จะมีการแฝงนัยการลดทอนปรับเปลี่ยนโครงสร้างและเหลี่ยมมุมของวัสดุให้อย่างกลมกลืนจนถึงที่สุด
กลิ่นอายของผลงาน…
ผลงานของผมโดยส่วนมาก หลักๆ จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ประดิษฐ์ดัดแปลงจากงานโลหะ, งานหล่อจากทองเหลือง, งานเชื่อม และงานกึ่งหัตถกรรมประยุกต์ โดยแบ่งสัดส่วนออกเป็น 60:40 (ความงดงาม 60 แนวคิด 40) เกือบทุกผลงานถูกสร้างมาจากมือแทบทั้งสิ้น เราเน้นการผลิตโดยการลดการใช้เครื่องจักร เราเน้นการเชื่อมไปทีละจุด เพื่อสร้างเสน่ห์ให้มีความเป็นประติมากรรม และความต่างอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ (การสร้างสรรค์ผลงานตามแบบฉบับนี้จะทำให้ผลงานที่ได้แต่ละชิ้น ไม่ซ้ำแบบกัน) กลุ่มตลาดลูกค้าของผม โดยส่วนมากนั้นจะเป็นพวกลูกค้าจากแกลเลอรี นักสะสม หรือโรงแรมที่มีดีไซน์เชิงศิลป์ แต่กลุ่มตลาดพวกนี้ อาจจะหายากหน่อย เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง
ประยุกต์แห่งยุคสมัย…
ณ ปัจจุบัน Masaya คือ 1 ในแบรนด์ที่ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ด้วยความที่ว่า Masaya เน้นการตลาดต่อกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในโซนยุโรปและอเมริกาเป็นหลัก ซึ่งประจวบเหมาะกับงานของผมก็ตรงกับลักษณะความต้องการกับทางฝั่งนั้นพอดี จึงทำให้มีโอกาสได้ร่วมงานกัน และภายในงานสถาปนิก ’61 ครั้งนี้ ก็ได้เตรียมคอลเลคชัน เฟอร์นิเจอร์ brass armchair ที่เคยนำไปจัดแสดงที่งาน Maison Objet มาร่วมนำเสนอด้วยเช่นกัน การออกแบบ brass armchair ได้เน้นคอนเซ็ปต์ไปที่การทำโครงสร้างให้เปรียบเสมือนการแผ่กิ่งก้านของต้นไม้ (การเติบโตตามธรรมชาติ) โดยโครงสร้างผลิตมาจากทองเหลืองแท้ ใช้เทคนิคการเชื่อมต่อกันไปทีละจุด รูปทรงสลิมเน้นรายละเอียด มี 2 สีให้เลือกเพื่อแมตช์กับสไตล์การตกแต่งจัดวางตามรสนิยม ซึ่งนอกจากเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ ก็จะมีเรื่องงานตกแต่ง Installation สำหรับสถาปนิก (ประเภทงานตกแต่งอาคารภายนอก) อาทิ Feature Collection, Mutation Console, Side Table, Easy Wing และอื่นๆ อีกมากมาย
ความไม่ธรรมดา…
ความไม่ธรรมดา จริงๆ อยู่ที่วิธีการใช้ ว่าจะนำไปใช้ยังไงให้ไม่ธรรมดามากกว่า อย่างวัสดุพื้นถิ่น หรือวัสดุอะไรก็ได้ ถ้าหากเรานำมาออกแบบดัดแปลง พร้อมนำเสนอผ่านกระบวนการคิดสุดสร้างสรรค์ที่ดีแล้ว ก็จะทำให้ลักษณะของผลงานดูมีความไม่ธรรมดาและมีความสวยงามควบคู่เช่นกันได้อย่างลงตัว
บนความแตกต่าง…
ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากบนโลก ต่างพากันค้นหาตัวตน ความชื่นชอบ และความแตกต่างตามแบบเฉพาะ ด้วยเหตุนี้งานดีไซน์ที่ถูกสร้างสรรค์อยู่บนจุดยืนของเอกลักษณ์และความต่าง จึงทำให้ได้รับการตอบรับและเป็นที่ต้องการแก่คนหมู่มากสูง แต่ทั้งนี้ ก็กลับกลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายของผู้ออกแบบเองว่าจะทำยังไง ให้ผลงานของตนนั้นมีความต่าง หลีกหนีความจำเจ โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ของตนไว้ เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับความเป็นตัวตนของนักออกแบบท่านอื่น
หากท่านใดสนใจที่อยากจะเข้าร่วมชมผลงานของคุณอภิวัฒน์ ชิตะปัญญา สามารถพบได้ที่งานสถาปนิก ’61 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ฮออล์ 1-3 ระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2561
